Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 28 เทศน์สั่งสอนวิญญาณสามเณรและพี่สาว

ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๘ 
ทำนอง : ลาวเล่นน้ำ

   ท่านพักอยู่ยังป่าดงพงหนา  เหล่าเทวดา-นาค-ครุฑและภูตผี
กายทิพย์วิญญาณมากมี แสนยินดีปรีดาโดยทั่วกัน
ผลัดเปลี่ยนเวียนมาหาพระอาจารย์มั่น มาผูกมาพันทุกภูมิทุกชั้นนานา
ท้าวสักกเทวราชก็มา พร้อมหมู่และมวลเทวา
มากมายเพื่อขอฟังธรรม
ตอนวิเวกไปอยู่ในป่าเปลี่ยว พักอยู่องค์เดียวในถ้ำดอกคำ
ท้าวสักกะมาหาประจำ เพื่อขอฟังธรรมหนุนนำแนวทาง
ท่านแสดงเมตตาอัปปมัญญาพรหมวิหารให้ฟัง พร้อมเทวาเทวีประดัง
ท้าวสักกะพาเข้ามาฟัง ทุกครั้งเป็นแสนเป็นหมื่น
-ดนตรี-
ตอนอยู่ที่นั่นท่านยังได้เห็น มีผู้หญิงและสามเณรแทบจะทุกคืน
เดินไปมาในยามดึกดื่น แทบทุกคืนเดินเวียนวกวนไปมา
ท่านสงสัยถึงถามไปว่า ทั้งสองคนมาเดินเวียนวนอยู่ทำไม
เขาตอบว่าเพราะยังอาลัย พระเจดีย์ที่สร้างไว้  ไม่เสร็จมาตายเสียก่อน
สามเณรองค์น้อยกับหญิงคนนั้น เป็นพี่น้องกันสัมพันธ์ร่วมอุทร
ทราบแล้วท่านจึงเทศน์สั่งสอน อย่าไปอาลัยอาวรณ์สิ่งล่วงเลยไป
แม้ทำความผูกพันธ์ฉันใด ก็ไม่กลับมาให้เป็นเช่นปัจจุบัน
แม้อนาคตควรปล่อยตามกาล หันมาทำปัจจุบัน นั้นให้สำเร็จ (บังเกิด) ประโยชน์
-ดนตรี-

                            -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๘
    ท่านจึงได้เทศน์ให้สองพี่น้องฟังว่า 
อ.มั่น สิ่งที่ล่วงไปแล้วไม่ควรไปทำความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้จะทำ
ความผูกพันและมั่นใจให้สิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบันก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้น
เป็นทุกข์แต่ผู้เดียวโดยความไม่สมหวังตลอดไป อนาคตที่ยังไม่มาถึงก็เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยว
เกี่ยวข้องเช่นกัน อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน ปัจจุบันเท่านั้น
จะสำเร็จประโยชน์ได้ เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย  การสร้างพระเจดีย์เราสร้างหวังบุญ
หวังกุศลต่างหาก มิได้สร้างเพื่อหวังเอาก้อนอิฐก้อนหินปูนทรายในองค์พระเจดีย์ไปด้วย สิ่งที่เป็น
สมบัติของเราในการสร้างพระเจดีย์ก็คือบุญ ท่านนักสร้างบุญทั้งหลาย ท่านเอาเฉพาะบุญติดตัวไป
มิได้เอาสิ่งก่อสร้างวัตถุทานต่างๆ ที่สละลงเพื่อทานแล้วติดตัวไปด้วย  สิ่งที่สำเร็จจากการก่อสร้าง
และการให้ทานอันเป็นส่วนนามธรรมอยู่ภายในนั้นคือตัวบุญกุศล เจ้าของผู้คิดเป็นกุศลเจตนาขึ้น
มาให้สำเร็จเป็นวัตถุไทยทานต่างๆ นั้นคือใจ ใจนี่แลเป็นผู้ทรงบุญ ทรงกุศล ทรงมรรค ทรงผล 
ทรงสวรรค์นิพพาน และใจนี่แลเป็นผู้ไปสู่สวรรค์นิพพาน นอกจากใจไม่มีอะไรไป ถ้าคุณทั้งสองยินดี
เฉพาะกุศลผลบุญที่ทำได้จากการสร้างพระเจดีย์ไปเท่านั้น ไม่มุ่งจะแบกหามพระเจดีย์ไปสวรรค์
นิพพานด้วย คุณทั้งสองก็ไปอย่างสุคโตหายห่วงไปนานแล้ว  เพราะบุญเป็นเครื่องสนับสนุน
บุญจึงไม่เปลี่ยนแปลงเป็นบาปตลอดกาล  คุณทั้งสองสร้างบุญญาภิสมภารมาเพื่อยังตนไปสู่สุคติ 
แต่กลับมาติดกังวลในอิฐในปูนเพียงเท่านั้น  จนเป็นอุปสรรคต่อทางเดินของตนซึ่งทำให้เสียเวลา
ไปนาน  ถ้าคุณทั้งสองพยายามตัดความขัดข้องห่วงใยที่กำลังเป็นอยู่ออกจากใจ ชั่วเวลา
ไม่นานเลยจะเป็นผู้หมดภาระเครื่องผูกพัน คุณมีจิตมุ่งมั่นในภพใดจะสมหวังในภพนั้น
เพราะแรงกุศลที่ได้พากันสร้างมาพร้อมอยู่แล้ว
    จากนั้นท่านแสดงศีล ๕ ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ไม่ขัดต่อภพกำเนิดและเพศวัยให้ฟังพร้อมอานิสงส์อย่างละเอียด พอจบธรรมเทศนา สองพี่น้องมีใจร่าเริงในธรรม และขอสมาทานศีล ๕ กับท่าน  เสร็จแล้วทั้งสองได้นมัสการลาและหายตัวไปในที่และขณะนั้น ด้วยอำนาจกุศลศีลทานที่ได้สร้างมาและกุศลที่ฟังธรรมรักษาศีล ๕ กับท่านพระอาจารย์มั่น สองพี่น้องได้เปลี่ยนภพถ่ายภูมิที่เป็นอยู่ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์พิภพในลำดับต่อมาโดยไม่ชักช้า และได้พากันมานมัสการเยี่ยมฟังเทศน์ท่านพระอาจารย์มั่นเสมอมิได้ขาด พร้อมด้วยความขอบพระคุณท่านที่เมตตาอนุเคราะห์ให้อุบายสั่งสอนต่างๆ จนได้พ้นจากความวกเวียนไปมาในสถานที่นั้น
    เพราะฉะนั้นเวลาคนเราจะพรากจากขันธ์ นักปราชญ์ท่านจึงสอนให้ระวังจิตไม่ให้เป็นอารมณ์ห่วงใยกับสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ความรัก ความชัง ความโกรธแค้นเป็นต้น ซึ่งจิตอาจไปเกาะเอาอารมณ์ที่ไม่ดีเข้าแล้วกลับมาเป็นไฟเผาตัว ไปเกิดในทุคติภพมีนรก เปรต อสุรกาย สัตว์ดิรัจฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งล้วนเป็นภพกำเนิดที่ไม่พึงปรารถนา และให้ความทุกข์ร้อนตลอดภพนั้นๆ


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.