Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 26 ลาจากหมู่บ้านชาวเขา

ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๖ 
ทำนอง : เชียงแสน

    หนึ่งปีผ่านพ้นทุกคนยิ่งรู้คุณค่าซึ้งอุราในพระธรรม พระอาจารย์มั่นแนะนำ
อบรมบ่มธรรมย้ำคอยพร่ำสอน ทุกขั้นทุกตอนดียิ่งทั้งผู้หญิงผู้ชาย
ทุกคนศรัทธาเลื่อมใส ด้วยความจริงใจไม่มีห่างหัน
เทิดทูนพระอาจารย์มั่น นั้นนับวันเพิ่มทวี
หนึ่งปีสองเดือนนับได้พอดี
-ดนตรี-
อยู่หมู่บ้านนั้นสอนธรรมตามวิธี
เมตตาธรรมนั้นเต็มที่ล้นฤดีเสมอมา ครั้นถึงวันท่านจากลาเขา
ออกมากันหมดบ้านหลั่งไหล ทุกคนหม่นหมองร้องไห้แสนอาลัยอาวรณ์
อย่าจากพวกเฮาไปเลยเขาเฝ้าวิงวอน
-ดนตรี-
กอดแข้งกอดขาฉุดชายสบงจีวร คร่ำครวญหวนหาอาวรณ์มิอยากให้จรจากเขาไป
-ดนตรี-
ร้าง - ร้างไกลห่างหายแรมลา เขาต่างยินดีพร้อมพลีชีวา
ด้วยความเลื่อมใสดังว่า เต็มเปี่ยมอุราไม่คลาย
ด้วยความเลื่อมใสดังว่า ล้นอุราทุกนาที
-ดนตรี-
หา - หามีที่ใดเปรียบปาน เขาร้องระงมทุกข์ตรมรำพัน
เพราะความอาลัยในท่าน ฝังแน่นอยู่ในดวงแด
เสียงร้องตะเบ็งเซ็งแซ่ ไม่ว่าเหลียวแลหนใด
-ดนตรี-
เห็น - เห็นแล้วน่าเวทนาจับใจ ท่านต้องปลอบโยนด้วยเหตุผลมากมาย
กว่าจะจากพวกเขามาได้ต้องอธิบายอยู่นาน ปลอบโยนหลายครั้งจึงผ่าน จรจากหมู่บ้านนั้นมา
-ดนตรี-

                                  -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๖
    พวกเขาเห็นโทษความผิดของตนที่คิดไม่ดีมาก่อน  โดยมองว่าท่านเป็นเสือเย็น  ครั้นเห็นโทษความผิดแล้วก็พร้อมใจกันมาขอขมาโทษ ท่านก็อโหสิกรรมให้ ก่อนจะจากพวกเขา ท่านพูดกับพระที่อยู่ด้วยกันว่า
อ.มั่น: ที่นี่เขาหมดโทษแล้ว  เราจะไปที่ไหนก็ได้ไม่ขัดข้องแล้ว
พอพวกเขาทราบว่าท่านจะจากเขาไปเท่านั้น  เขาพากันออกมาทั้งบ้าน  ร้องไห้วิงวอนกันชุลมุนวุ่นวายไปทั้งป่า  เนื่องจากพวกเขาไม่ยอมให้ท่านหนีจากไปไหน  เขาบอกกับท่านว่า  
ชาวบ้าน: แม้ตุ๊เจ้าตายลงที่นี่  พวกเฮาทั้งหมดนี้จะเผาศพตุ๊เจ้าเอง  พวกเฮาเองก็ขอมอบชีวิตไว้กับตุ๊เจ้า
ด้วย  เพราะพวกเฮารักและเคารพตุ๊เจ้ามาก
ท่านก็พยายามแสดงเหตุผล  ที่จำต้องจากเขาไปและปลอบโยนพวกเขาไม่ให้เสียใจจนเกินขอบเขตแห่งธรรมคือความพอดี  จนพวกเขาเป็นที่ลงใจแล้วก็ออกจากที่พัก  แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็กลับเกิดขึ้นอีก  คือทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างคนต่างไปรุมล้อมท่าน และเข้าไปแย่งเอาบริขาร กลด บาตร กาน้ำ และฉุดชายสบงจีวรกอดแข้งกอดขาท่านดึงกลับมาที่พักอีก  ท่านต้องกลับมาแสดงเหตุผลปลอบใจให้สงบเย็นอีกพักหนึ่ง จนเขายอมปล่อยให้ท่านไป
แต่พอท่านก้าวออกจากที่พักเดินไปได้แค่ ๔-๕ วาเท่านั้น ต่างก็ร้องไห้แล้วพากันตามฉุดเอาท่านกลับมาอีก  ฟังเสียงร้องไห้ระเบ็งเซ็งแซ่ฉุกละหุกวุ่นวายไปทั่วทั้งป่า ซึ่งเป็นที่น่าสมเพชเวทนาเอายิ่งนัก  ทำเอาท่านเสียเวลาไปหลายชั่วโมง
คำว่า “เสือเย็น” ที่เกิดขึ้นในตอนแรกๆ จึงหมดความหมายไปทั้งสองฝ่าย ที่ยังเหลืออยู่จึงมีแต่ความเคารพเลื่อมใสความอาลัยอาวรณ์ในท่านผู้ทรงคุณธรรมอันสูงส่ง ที่สุดจะอดกลั้นไว้ได้ ขณะที่ท่านจากไปจึงมีแต่เสียงร้องไห้ระทมทุกข์ของพวกชาวเขาที่เฝ้ารำพันพิไร ทั้งเสียงร้องไห้และสั่งเสียว่า
ชาวบ้าน: เมื่อตุ๊เจ้าไปแล้วให้รีบกลับคืนมาหาพวกเฮาอีก อย่าจากไปนาน พวกเฮาคิดถึงตุ๊เจ้าแทบอกจะ
แตกตายอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว
จนไม่ทราบว่าเป็นเสียงเด็กหรือเสียงผู้ใหญ่ที่ต่างคนต่างร้องไห้ไว้ทุกข์ในคราวท่านจากไป ณ เวลานั้น
ท่านจึงได้จากชาวเขาไป เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ชาวโลกต่อไป  ตามอัธยาศัยไม่มีประมาณ
 


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.