Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต :: เพลงที่ 20 ทำลายจอมกษัตริย์วัฏจักรอวิชชา

ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๐ 
ทำนอง : ลอเลื่อน

    คืนหนึ่งนั่งภาวนาเริ่ม ๒๐ นาฬิกานั้นเป็นต้นไป บำเพ็ญตนใต้โคนต้นไม้ใหญ่
ระย้ายิ่งกิ่งใบ-ดกปกหนา ลานหินเชิงชายเขา
ร่มผืนเงาพฤกษา ดาวระยิบน้ำค้างย้อยหยาดลงมา
รอบกายาแสนเย็นพาชุ่มชื่น สงัดเงียบยามดึกดื่นคืนนั้นภาวนา
-ดนตรี-
สัมผัสปัจจยาการเพ่งอยู่จุดนั้นไม่เลือนเคลื่อนคลา โดยปฏิโลมและอนุโลมไปมา
ภพ-ชาติ-นานาตั้งกัปกัลป์ กิเลสสาระพันตัณหา
มาล้อมใจอยู่นั้นมีอวิชชานี่เองเป็นตัวการ ผูกติดพันขันเป็นเกลียวเหนียวแน่น
ฉลาดแหลมคมโลดแล่นสุดแสนว่องไว
-ดนตรี-
ดับอวิชชาตัวนี้ ต้องมีพลังหลักใจ มหาสติมหาปัญญาเข้าชิงชัย
เปรียบเทียบไปคล้ายอาวุธคมกล้า ตอบโต้ตีนำหน้าเพื่อคว้าโชคชัย
-ดนตรี-
ไม่ยอมแพ้ยอมถอยใดๆ ถอดใจหลีกหนี ไม่คำนึงแม้ถึงชีวียอมพลีถวาย
จนฝ่ายกษัตริย์วัฏจักรหักสูญหาย ถูกทำลายไร้บัลลังก์อำนาจ
ฤทธิ์เดชพังพินาศขาดสูญสิ้นไป
-ดนตรี-
สิ้นทางหลบหลีกใดๆ อวิชชา-ภพชาติขาดเชื้อมอดไหม้
แตกแหลกล้มทลาย เยื่อใยไม่เหลือกลายกล้ำ
จึงเหลือแต่วิสุทธิธรรมครองใจ
-ดนตรี-
ตั้งแต่ ๒ ทุ่มถึงตี ๓ คืนค่ำนั้นสดใส ได้วิมุตติวิสุทธิธรรมแผ่กระจาย
จับจิตใจซึ้งซ่านไปทั่วร่าง จิตแจ่มจ้ากระจ่างสว่างไสวสุดอัศจรรย์
-ดนตรี-
มวลหมู่เทวบุตรเทวธิดาทุกขั้นชั้นฟ้าประกาศก้องหล้าสาธุการ โมทนาเสียงสะเทือนสะท้าน
ศิษย์ตถาคตนั้นบังเกิดขึ้นในโลกอีกแล้ว ทั่วนภางสว่างไสว
มองหนใดเพริศแพร้ว ทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างวาวแวว
เพริศพราวแพรวโลกธาตุไหวหวั่น เทพทุกภูมิทุกขั้นกล่าวขานโมทนา
-ดนตรี-

                    -พูด-  บรรยาย ประวัติหลวงปู่มั่น ตอนที่ ๒๐
    เมื่อกษัตริย์อวิชชาดับชาติขาดภพลงไปแล้ว  ขณะนั้นเหมือนโลกธาตุหวั่นไหว  เสียงเทวบุตร
เทวธิดาทั่วไปประกาศก้องสาธุการ  ว่า
เทวบุตร;เทวธิดา: ศิษย์ตถาคตนั้นปรากฏขึ้นในโลกอีกหนึ่งองค์แล้ว  พวกเราทั้งหลายมีความยินดีและสุขใจ
กับท่านอย่างล้นพ้น
พอความอัศจรรย์กระเทือนโลกธาตุผ่านไปแล้ว  คงเหลือไว้แต่วิสุทธิธรรมภายในใจ  และแผ่กระจายไปทั่วสรรพางค์กาย  ได้รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ขึ้นมา  ซึ่งเป็นการตายและการเกิดที่อัศจรรย์ไม่มีอะไรเทียบได้
    จิตใจของท่านเวลานั้นหนักไปทางรำพึงถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าผู้บรมครู  ทรงรู้จริงเห็นจริงและสั่งสอนเวไนยเพื่อวิมุตติหลุดพ้นจิรงๆ  ไม่มีความโกหกหลอกลวงแฝงอยู่ในพระโอวาทแม้บทเดียวบาทเดียวเลย
    ตลอดคืนนั้นท่านปลงความสลดสังเวช  ในความโง่เขลาเต่าตุ่นของตัวท่านเอง  ซึ่งเปรียบเหมือนหุ่นตัวท่องเที่ยวในภพน้อยใหญ่ไม่มีประมาณ  จนน้ำตาไหลตลอดคืน และกราบพระคุณของพระพุทธเจ้า  พระธรรม และพระสงฆ์อย่างถึงใจ โดยกราบแล้วกราบเล่าอยู่ทำนองนั้นไม่อิ่มพอตลอดคืน
    ในคืนนั้นชาวเทพทั้งหลายทั้งเบื้องบนชั้นต่างๆ ทั้งเบื้องล่างทุกทิศทุกทางหลังจากพร้อมใจกันสาธุการประสานเสียงสำเนียงไพเราะจนสะเทือนโลกธาตุเพื่อประกาศอนุโมทนากับท่านแล้ว  ยังพร้อมกันมาเยี่ยมฟังธรรมกับท่านอีกวาระหนึ่ง  แต่ท่านได้ให้อาณัติสัญญาณบอกพวกชาวเทพทั้งหลายทราบว่า  ท่านยังไม่ว่าง  โอกาสหน้าค่อยมาใหม่
    ชาวเทพทุกภูมิพากันกลับไปด้วยความโสมนัสยินดีโดยทั่วกันที่ได้มาพบเห็นวิสุทธิเทพในคืนแรกที่ท่านเห็นธรรม
 


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.