ช่วยโลกกว่าพันล้านขึ้นไปพอฟังได้บ้าง
วันที่ 19 มิถุนายน 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

ช่วยโลกกว่าพันล้านขึ้นไปพอฟังได้บ้าง

อะไร

(โรงพยาบาลนาหว้า นครพนม ครับ)

มีอะไรว่ามา

(ขอเมตตาหลวงตาช่วยต่อเติมอาคารผู้ป่วยในครับ)

เออ เพียงรับทราบไว้เท่านั้นละนะ โอ๋ย หนักมากจริง ๆ เรา เฉพาะเกี่ยวกับโรงพยาบาลนะ มากจริง ๆ เอาละ รับทราบไว้ก่อน นี่กำลังจะเริ่ม เวลานี้ท่าอุเทน ๑ ตึก โนนสัง ๑ ตึก แล้วต่อจากนี้ไปก็จะเริ่มทางเรือนจำลาดยาว อันนี้ใหญ่โตอยู่มากถึง ๓ ชั้น อาจจะเป็น ๒ ตึกก็ได้ถ้าเราไปดูแลเหตุการณ์เรียบร้อยมาแล้วนั่นละแน่นอน เวลานี้ยังไม่แน่ แต่เรื่องที่จะช่วยนี้แน่แล้ว จะช่วยหนักเบามากน้อยเพียงไร ให้ไปดูเหตุการณ์เสียก่อน

เป็นยังไงรัฐบาลไม่ได้ให้ หรือไม่ไปขอเขา

(ปีผ่าน ๆ มาไม่พอจึงขอเมตตาจากหลวงตาช่วย ปีนี้งบพอแต่ไม่พอต่อเติมตึก ซึ่งคาดว่างบจะประมาณ ๒.๗ ล้านครับ)

เอาละทราบแล้ว ๒ ล้าน ๗ ไอ้เราก็มีแต่หัวล้าน นี่พี่น้องทั้งหลายกรุณาทราบนะ เขาเขียนไว้ที่ไหนเราไปอ่าน แต่เขาก็พูดกว้าง ๆ ถูกต้องดี แต่นี้เพื่อความแน่นอนลงไปเป็นขั้นเป็นตอนอีกทีหนึ่งว่า ที่เขาประมวลมาพูดนี้ เท่าที่เขาหาเก็บอะไร ๆ ได้ ว่างั้นนะ เขาก็พูดถูกต้องดีว่า ที่หลวงตาไปช่วยที่ต่าง ๆ นั้นมีโรงพยาบาล เป็นต้น ที่เขียนไว้นั้น ๒๐๐ ล้านหรือไง อันนี้เขาประมวลมาอย่างที่ว่า ทีนี้เราประมวลให้แน่เข้าไปกว่านั้น แต่ไม่ถึงขั้นแน่จริงนะ นี่ก็เป็นเหมือนว่าประมวลมาเท่าที่เราจำได้อีกเหมือนกัน ถ้าว่าพันล้านขึ้นไปนั้นเราจะพอฟังได้บ้าง ฟังซิว่าได้บ้าง ถ้าว่าพันล้านขึ้นไปนั้นจะพอฟังได้บ้าง ถ้าขึ้นกว่านั้นแล้วจะพอใจ เพราะเราช่วยมากจริง ๆ อันนี้เขาหาเก็บตามครั้งตามคราวหรือตามบิลจากโรงพยาบาล

ส่วนมากถ้าเป็นบิลมานี้มักจะเป็นเครื่องมือแพทย์ เขาส่งมาทางโรงพยาบาล แล้วโรงพยาบาลก็ส่งบิลมาจำนวนเท่านั้น เขาอาจจะได้มาจากที่นั่นก็ได้ หรือได้มาจากคำบอกเล่าที่นั่นที่นี่บ้างก็ได้ แล้วเขาก็มารวมเป็นเงินประมาณเท่านั้น ก็ถูกต้อง ทีนี้เราย่นเข้าไปให้แน่กว่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแน่จริง ถ้าว่าเป็นพันกว่าล้านขึ้นไปนั้นเราจะพอฟังได้ เพราะเราช่วยคิดดูซิตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาดมานี้ ๒๔๙๘ เดือนพฤศจิกา ถึงขณะนี้เป็นเวลา ๔๗ ปี บรรดาจตุปัจจัยไทยทานที่พี่น้องทั้งหลายมาบริจาคเราตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมานี้ ปัจจัยเหล่านี้มีแต่ออกช่วยชาติ เริ่มต้นตั้งแต่คนทุกข์คนจน เช่นอย่างพวกคนไข้ไม่มีญาติอะไรมาขอจากเรา เรารับเป็นคนไข้ของเรา ๆ นับประมาณไม่ได้ นี่เรียกว่าคนจน

แล้วมีอีกประเภทหนึ่งคนจนแนบกันไว้ แล้วจากนั้นก็ช่วยเรื่อย ๆ ไป เริ่มตั้งแต่สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน สร้างเบื้องต้นก็บ้านตาดนี้ โรงเรียนบ้านตาดเป็นหลังแรก จากนั้นก็ต่อไปหนองตูม หนองใหญ่ กระจายออก ๆ สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียนที่ไหนไม่กำหนดกฎเกณฑ์ แล้วก้าวเข้าสู่โรงพยาบาล เรื่อยมาตั้งแต่เริ่มสร้างวัดจนกระทั่งป่านนี้ แล้วเงินที่จะให้หลวงตาเก็บ ๔๗ ปีตั้งแต่วันสร้างวัดมานี้ จะคำนวณได้ประมาณเท่าไรคิดดูซิ สักกี่ล้าน นี่ละเงินเหล่านี้ออกทั้งนั้น คือออกมาตั้งแต่โน้นเลย เราไม่เก็บ เป็นแต่เพียงไม่ประกาศให้ใครทราบเรื่อยมา เพราะฉะนั้นมันถึงมาก จึงว่าถ้าว่าพันล้านนั้นเราจะพอฟังได้บ้าง ยังมีบ้างอีกนะ ๔๗ ปีฟังซิ ช่วยทั้งนั้นนะ เราไม่เก็บเงิน

ไปที่ไหน ๆ มีแต่รอยมือเราสร้างไว้ ๆ ไปหมดเลยตามโรงพยาบาล โรงร่ำโรงเรียน ไปที่ไหนมีอยู่ทุกแห่งทุกหนเกลื่อนไปหมดนั่นแหละเราช่วย ฟังแต่ว่า ๔๗ ปี กับคนเคารพนับถือเขามาถวายอย่างนี้เป็นประจำมาเรื่อย ๆ มาแต่โน้น หนาแน่นขึ้นมาเรื่อย หนาแน่นขนาดไหนก็ออก ๆ ช่วยโลก ๆ มาเรื่อยนะจนกระทั่งป่านนี้ เพราะฉะนั้นถึงว่าพันล้านขึ้นไปนั้นเราจะพอฟังได้บ้าง คือได้ช่วยอย่างไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวจริง ๆ

อย่างบอกพี่น้องทั้งหลายนี้ให้ทราบเอาไว้เวลาหลวงตาบัวตาย เขาเคยมี ลานอะไรไม่ทราบ มันลานโพธิ์ลานผีอะไรก็ไม่ทราบ เขามาโจมตีหลวงปู่ฝั้นเรา ตอนนั้นเงินแพง ปี ๒๕๒๐ เงินยังแพงอยู่นะ เขาเอาเรื่องเงินของท่านที่เก็บไว้ในวัดซึ่งท่านสั่งเสียไว้แล้วนะ พวกนี้ไม่รู้ หรือรู้มันก็ทิ้งไว้อย่างนั้น มันก็มาโจมตีถ่ายเดียวเท่านั้นก็ได้นะ เขาออกประกาศลั่นทางหนังสือพิมพ์ว่า เวลานี้ท่านอาจารย์ฝั้นมีเงินอยู่ ๑ ล้าน ๕ แสน คนนี้หูกางกันไปหมด ตื่นเต้นกัน ก็แสดงว่าท่านอาจารย์ฝั้นท่านมีเงินมาก พระกรรมฐานไม่น่าจะมีเงินมากถึงล้าน ๆ อย่างนั้น ความหมายก็ว่างั้น แต่ความจริงนั้นท่านสั่งไว้แล้ว ทีนี้เราก็ทราบคำสั่งของท่านว่า เงินจำนวน ๑ ล้าน ๕ แสนบาทนี้ ท่านสั่งไว้ว่า จำนวนหนึ่งให้ ตอนนั้นโรงพยาบาลท่านอาจารย์ฝั้นยังไม่มี เอาไว้ที่วัดอุดมสมพรเสีย ๕ แสน ไปทางวัดถ้ำศรีแก้ว ๕ แสน อีกที่หนึ่งเราลืม มี ๓ แห่งก็พอดีกับเงินล้านห้าแสนหมดพอดี นี่ท่านสั่งเสียไว้เรียบร้อยแล้ว แต่พวกมาโจมตีจะฟังหรือไม่ฟัง ได้ยินไม่ได้ยินไม่ทราบนะ มาโจมตีเอาอย่างนั้น

เราก็ โหย ใจหายเลย ก็พอดีสมเด็จที่วัดนรนาถฯ ท่านก็รู้สึกว่าเสียใจเหมือนกัน ตกตะลึงเหมือนกัน ท่านบึ่งมาหาเรา ท่านอาจจะทราบเบาะแสอะไรบ้างก็ได้นะว่าเราอาจจะทราบเรื่องราว ก็พอดีออกไปเจอกันตรงกลางทางตอนบ่าย ๓ โมง ท่านเปิดไฟพับ เราก็แอบรถ คงจะมีอะไร ๆ เราแอบรถก่อน พอดีท่านออกมา "เออ พอดี จะไปไหน" ท่านว่า "ไปไหนก็ไปแหละ ไม่ใช่คนตาย" พูดกับสมเด็จฯ เป็นอย่างนั้นนะ ตอนนั้นยังไม่เป็นสมเด็จฯ คุ้นกันมาแต่ไหนแต่ไร ท่านก็เลยมาเล่านี่ให้ฟัง ตาลีตาลานเหมือนกันนะ พูดด้วยความเสียอกเสียใจด้วย ยกเรื่องขึ้นมาที่เขาโจมตี

ทางนี้ก็ตาลีตาลานไปรับท่านเหมือนกัน ก็เลยกราบเรียนท่านว่าเรื่องราวเป็นอย่างนี้ ๆ ที่ไหนนะลืม ๓ แห่ง เราจำได้ ที่ว่าแห่งละ ๕ แสน ก็เป็นอันว่าล้านห้าแสนหมด ท่านสั่งเสียไว้หมด นี้เราย่นเอาเพียงเท่านี้ไม่ต้องพูดมาก ทีนี้จะย่นมาถึงหลวงตาบัว เวลานี้หลวงตาบัวกำลังเป็นกระดานสนามที่เขาโจมตี เขาหาเก็บตกอยู่แล้วเวลานี้ หาอยู่ทุกแห่งทุกหน หาเก็บตกจะมาตีหลวงตาบัว ให้ทราบไว้เสีย นี่เราพูดมาดั้งเดิมแล้วนี่นะ เงินในสมุดเวลาเราตายแล้วเราสั่งเสียพระเรียบร้อยแล้ว สมุดบัญชีที่ฝากเอาไว้ที่นั่น ๆ อยู่ในตู้ เวลาผมตายแล้วให้เอามาเปิดทำหน้าที่แทนผมทั้งวัดเลย มีหัวหน้าวัดเป็นผู้ทำหน้าที่แทน เงินจำนวนที่เศษเหลืออยู่เวลานี้ ผมบอกให้ท่านทั้งหลายทราบแล้วว่า ผมไม่มีเงินถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองสักบาทเดียว เงินเหล่านี้สำหรับส่วนรวมทั้งนั้น แต่ที่ยังเหลือไว้นี้เผื่อนั้นบ้างเผื่อนี้บ้าง ผมเผื่อไว้ในจิตของผมหมดแล้วเผื่อเวลาจำเป็นอย่างนั้นบ้าง มันมีหลายอย่างใช่ไหม ไม่ระบุว่าอะไรบ้างจำเป็น อันนี้บ้าง อันนั้นบ้าง เราเผื่อเวลามีเงินอยู่ในบัญชีแล้วให้ประกาศตามความจริงที่ผมสั่งไว้เรียบร้อยแล้วนี้นะ เขามาโจมตีให้เขาโจมตีไป เรื่องความจริงมีอย่างนี้ให้ท่านทั้งหลายทราบ

นี่ก็จึงประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า เวลาเราตายนี้เงินยังเหลืออยู่บัญชีเท่าไร กรุณาทราบตามนี้นะ จะไม่มีเงินหลวงตาบัวติดอยู่ในนั้น โดยถือกรรมสิทธิ์ว่าเป็นของตัวเอง มีแต่ออกนอกอย่างที่เคยพูดมา กรุณาทราบไว้ทุกคนนะ เวลานี้จะโจมตีแหละ เพราะเราเป็นสนามที่เขาโจมตีอยู่แล้ว มันจะต้องหาเรื่องมาเก็บตก ๆ ออกมาโจมตี ท่านทั้งหลายทราบเอาไว้นะ

สำหรับเราเองบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ล้านเปอร์เซ็นต์ เกี่ยวกับเรื่องการช่วยโลกคราวนี้นะ คือการช่วยโลกเราดูหัวใจเราเลยเพราะเราช่วยด้วยหัวใจ ช่วยโลกด้วยความเมตตา ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริง ๆ พิถีพิถันเรื่องการเงินการทอง ใครมาแตะไม่ได้ คิดดูซิบัญชีมีกี่บัญชี รวมบัญชีของโครงการช่วยชาติทั้งหมดมาอยู่กับเราคนเดียวเป็นผู้รับผิดชอบสั่งเก็บสั่งจ่ายแต่ผู้เดียว ใครมายุ่งไม่ได้ เราจึงพิถีพิถันในการเงินการทองตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ จึงไม่มีเงินเป็นของตัว แม้ที่สุดบัญชีวัดที่เป็นพื้นฐานมาตั้งแต่สร้างวัด นี่ก็ช่วยโลกมาตลอด เป็นแต่เพียงไม่เรียกว่าโครงการช่วยชาติเท่านั้น แต่อันนี้เป็นแม่บทแม่บาทแม่พิมพ์ของการช่วยชาติ ช่วยมาตลอดตั้งแต่นู้นจนกระทั่งบัดนี้

อย่างพี่น้องทั้งหลายมานิมนต์ไปเทศนาว่าการ ถ้าเราไม่ได้เอาเข้าโครงการ เราก็เอาจำนวนเงินที่เทศนาว่าการนั้นออกช่วยชาติ เห็นไหมล่ะ ที่ช่วยทุกแห่งทุกหนเอาเงินนี้ออก ไม่เอาเข้าบัญชีก็เอาออกช่วยทางนู้น กรุณาทราบไว้ตามนี้ ไอ้เรื่องหลวงตาบัวมีเงิน ใครจะโฆษณาเท่าไรก็กรุณาทราบเอาไว้ สำหรับเรานี้บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว เรายังไม่มีในจิตเราเลยแม้แต่บาทเดียว ว่าเราได้เก็บหรือซุกซ่อนเงินพี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้ด้วยความทุจริตของเรา ใจมัวหมอง ใจเป็นมลทิน ใจดำมืดตื้อ แล้วเอาเงินจำนวนนี้ มาไว้ในส้วมในถาน คือหัวใจที่สกปรกของเรา อย่างนี้เรียกว่าไม่มี เราถึงขนาดนั้น เราจึงกล้าพูดได้ทุกคำทุกบททุกบาทที่ช่วยชาติบ้านเมืองคราวนี้เราช่วยจริง ๆ

เราช่วยด้วยความที่ว่าเราพอแล้วทุกอย่าง เรื่องจิตใจกับอรรถกับธรรมตั้งแต่เสาะแสวงหาล้มลุกคลุกคลานมาจนกระทั่งได้ประกาศลั่นโลกมานี้ ใครเชื่อไม่เชื่อเราไม่สนใจ เราไม่เอาคนตาบอดมาเป็นสักขีพยาน เราจะเอาคนตาดีเท่านั้น คือหัวใจของเรากับธรรมที่บรรจุไว้เต็มเอียดนี้หนึ่ง หัวใจพระพุทธเจ้าสาวกทั้งหลายนี้หนึ่ง กระจายเป็นอันเดียวกันแล้วเป็นน้ำมหาสมุทร อันนี้น้ำมหาสมุทรที่เต็มในหัวใจกระจายออกไปทั่วขอบเขตของมหาสมุทร นี้แลเป็นพยานของเรา เราจะมาไม่ให้คนตาบอดหูหนวกที่มาคอยตัดคะแนนมาให้คะแนนทั้ง ๆ ที่มันตาบอดอย่างนั้นมาเป็นสักขีพยานเราเลย เราจะเอาธรรมพระพุทธเจ้าที่เลิศเลอมาเป็นพยาน เราจะไม่เอาส้วมเอาถานตาบอดหูหนวกเหล่านี้มาเป็นสักขีพยาน

เพราะฉะนั้น เราจึงพูดได้เต็มอรรถเต็มธรรมไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน ว่าอะไรสูงไปต่ำไป ไม่มี มีแต่ธรรมที่เหนือโลก ๆ เรียกว่าโลกุตรธรรมตลอดมาเท่านั้น ที่เราช่วยโลกมาทุกวันนี้ เราช่วยแบบนี้เอง เราจึงไม่เคยสะทกสะท้าน ใครจะตำหนิติเตียนว่าโอ้ว่าอวด เราไม่สนใจ พวกส้วมพวกถานมันก็เห่าว้อก ๆ แล้วลงไปกินเศษส้วมเศษถานอยู่นั้นแหละ มันไปหากินของวิเศษวิโสอะไร ถ้าธรรมแล้วไม่ต้องหากิน พอทุกอย่างแล้ว นี้เราช่วยโลกด้วยความพอทุกอย่าง เราไม่หวังอะไรแล้ว เต็มบทเต็มบาททุกสิ่งทุกอย่าง ช่วยไป ๆ อย่างนี้ มีเท่าไรก็ทุ่มกันอย่างที่ว่านี่แหละ ดูเอาพี่น้องทั้งหลาย เราพอทุกอย่างแล้ว เราไม่สนใจในเรื่องเหล่านี้

เพราะฉะนั้น ใครจะมาโจมตีเรา ให้ยกมาหมดทั้งโคตรทั้งแซ่มาโจมตีเราเราก็ไม่สนใจ ถ้ามีปู่ย่าตายายกี่โคตรกี่แซ่ก็ให้มาโจมตีเรา เราไม่สนใจไอ้เรื่องมูตรเรื่องคูถเรื่องส้วมเรื่องถาน เราไม่สนใจกับมัน กรุณาพี่น้องทราบไว้ เราพูดตามหลักความจริงที่เราได้ปฏิบัติต่อโลกมา ปฏิบัติมาอย่างนี้ ไม่มีอะไรเหลือ เวลาเราตายแล้วกรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบ ว่าเงินเหลือในบัญชีเท่าไรก็เหลือไว้เพื่อจะทุ่มนั่นเอง ไม่ได้เหลือไว้เพื่ออะไร ให้ทราบตามนี้ เราไม่มีอะไรติดตัว

นั่นเห็นไหมเมรุเราทำไว้แล้วนั่น ตายแล้วอย่างน้อยก็ไปเผา ไม่เผาโยนเข้าป่าเราก็ไม่สนใจ ประสากระดูกสนใจหัวมันอะไร กระดูกเฉย ๆ นี่พาอยู่พากินพาหลับพานอนพาขับพาถ่าย ยุ่งกับธาตุกับขันธ์อันนี้แหละ โลกธาตุนี่เขาอยู่ของเขา แต่ธาตุขันธ์นี้กวนตลอดเวลา ดูมัน นอนก็เพื่อธาตุเพื่อขันธ์ กินอยู่หลับนอนเพื่อธาตุเพื่อขันธ์ กระดิกพลิกแพลงไปไหนมาเพื่อธาตุเพื่อขันธ์ ใจไม่มีอะไร หมดทุกสิ่งทุกอย่าง มีแต่สมมุตินี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเรารับผิดชอบกันมาด้วยอุปาทานมาแต่ก่อน เมื่ออุปาทานหมดไปเรียบร้อยแล้ว ก็ยังเหลือแต่ความรับผิดชอบก็รับผิดชอบกันอย่างนี้ อย่างเวลานี้มาฉันจังหันก็รับผิดชอบธาตุขันธ์ อย่างนี้เรื่อยมา

นี่เป็นสมมุติวาระสุดท้ายระหว่างจิตที่หลุดพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ที่เรียกว่าวิมุตติ กับสมมุติคือธาตุขันธ์เป็นต้น ที่เกี่ยวโยงกันอยู่มีธาตุขันธ์นี้เท่านั้น นอกนั้นไม่มี ธาตุขันธ์นี้ไม่ได้เกี่ยวโยงด้วยความซึมซาบ แต่เกี่ยวโยงด้วยความรับผิดชอบเท่านั้น เมื่อถึงวาระอันนี้ลมหายใจขาดปั๊บลงไป เรียกว่าสมมุติโดยประการทั้งปวง มีธาตุขันธ์เป็นต้น ได้ขาดสะบั้นลงแล้วในขณะนั้น นั่นละท่านเรียกนิพพานเที่ยง อนุปาทิเสสนิพพาน คือหลักธรรมชาติที่ขาดสะบั้นกันจากสมมุติที่รับผิดชอบแล้วคือขันธ์เป็นต้น นั้นแลท่านเรียกว่า อนุปาทิเสสนิพพาน

สอุปาทิเสสนิพพาน คือพระอรหัตอรหันต์ท่าน ยังรับผิดชอบอยู่อย่างนั้น เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพาน นี่ก็ปฏิบัติอยู่อย่างนี้ตลอดมา เราไม่สงสัยคำสอนของพระพุทธเจ้า บรรจุในหัวใจนี้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามที่เราพูด เราจึงพูดได้อย่างเต็มปากจากความรู้อย่างเต็มหัวใจเรา นอกนั้นเราไม่รู้ มันมาพูดอะไรก็ช่างหัวมันซิ เอามาเป็นพยานอะไร คนตาบอดหูหนวกมืดแปดทิศแปดด้าน อะไรจะเกินคนที่มีกิเลสบีบหัวใจมันวะ คนที่สว่างจ้าคือคนผู้สิ้นกิเลสแล้วเท่านั้นเอง

แล้วเราจะเอาใครมาเป็นพยาน มองไปที่ไหนมีแต่หูหนวกตาบอดทั้งนั้น แล้วมันจะคอยมาตัดคะแนนให้คะแนน เต็มไปหมด เก่งมากนะหูหนวกตาบอด อวดรู้อวดฉลาด ไม่มีใครเกินหูหนวกตาบอด ที่โง่ที่สุดนี้ คือมนุษย์ขี้เหม็นเรานี่แหละ ถ้าว่าหลวงตาบัวพูดว่ามนุษย์นี้ขี้เหม็นนี่ผิดไป ใครขี้หอม เอา ขี้ป้าดออกมานี้เอามาดมกัน หาพยานเดี๋ยวนี้ ถ้าว่าหลวงตาพูดผิดไป ถ้าพูดถูกแล้วไม่ต้องมาขี้ก็ได้ มันรู้กันแล้ว

นี่พูดถึงเรื่องการช่วยชาติ เราช่วยขนาดนี้ เป็นพัน ๆ ขึ้นไป เป็นหมื่นขึ้นไปแล้วเราเห็นด้วย ว่าหมื่นขึ้นไปแล้วเต็มที่เรา เพราะไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัวเลย นี่ละช่วยชาติดูเอาพี่น้องทั้งหลาย ช่วยถึงขนาดนั้น ไม่มีแบ่งสันปันส่วน แบ่งรับแบ่งสู้เราไม่มี มีเท่าไรทุ่ม ๆ ติดหนี้เขาก็มี คนมั่งมีจะไปติดหนี้เขาอะไร คนจนน่ะซิถึงติดหนี้ด้วยความจำเป็น นี่ละความเสียสละเป็นสิ่งที่ร่มเย็นมาก ไปที่ไหนร่มเย็น ๆ ตัวเองในหัวใจผู้บริจาคด้วยความเสียสละด้วยความเมตตาก็ร่มเย็นไปไหนร่มเย็นกว้างขวาง คนมีเมตตาธรรมคนมีความสงสาร คนเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันแล้วไปที่ไหนกว้างขวางทั้งนั้น ไม่อดอยากขาดแคลน อยู่โลกนี้จนก็จนแต่หัวใจไม่จน เขาจนจนเหมือนเขาเรื่องวัตถุต่าง ๆ มันมีได้มาเสียไปเป็นธรรมดาเป็นโลกอนิจจัง แต่หัวใจไม่จน

หัวใจที่บรรจุอรรถจุธรรมแล้วไม่จน จากโลกนี้ไปโลกหน้าก็หัวใจดวงที่สว่างจ้าด้วยทานด้วยศีลด้วยภาวนานี้แลจะตามประคับประคองเราให้เป็นสู่สถานที่ดี คติที่สมหวัง คือบุญคือกุศลคือความกว้างขวางจากการบริจาคทานนี้แหละ คนมีแต่ความตระหนี่ถี่เหนียวตีบตันอั้นตู้ อยู่ในโลกนี้ก็คับแคบ มีเงินกี่ล้านก็คับแคบอยู่ในหัวใจของมัน ตายไปแล้วก็ไปคับแคบในโลกหน้า มันไม่ได้คับแคบโลกนี้นะ คือหัวใจตัวตีบตันนี่ออกจากนี้ตัวตีบตันมันไป ตัวตีบตันไปไหนก็ตีบตันที่นั่น หัวใจดวงนี้

ให้พากันเสียสละนะ เพื่อหัวใจเรา หัวใจเรานี้สมบุกสมบันมากนะ ออกจากนี้จะไปภพนั้น ๆ ด้วยกันทุกคน ไม่อยู่นะ ออกจากนี้ไปภพนั้น ๆ ตามบุญกรรมของตัวเองดีชั่ว มันจะไปของมัน เพราะฉะนั้นให้สั่งสมความดีไว้เสียตั้งแต่บัดนี้ จะไม่จนตรอกคนที่มีความดีเต็มหัวใจ เอ้า ทุกข์ก็ทุกข์เถอะ ว่างั้นเลย หัวใจนี้ไม่จน กว้างขวางอยู่นั้น ออกจากนี่พับขึ้นเลย ที่ไหนสว่างกระจ่างแจ้งเป็นความผาสุกร่มเย็น บุญจะหนุนไปเลยทีเดียว พากันจำเอานะ เอาละพอ

อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.Luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก