น้ำตาร่วง ๓ พัก
วันที่ 14 พฤษภาคม 2546 เวลา 8:10 น. ความยาว 32.09 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)   วิดีโอแบบ(Win High Band)

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖

น้ำตาร่วง ๓ พัก

 

         พอพูดถึงจังหวัดชลฯ แล้วทำให้ระลึกได้หลวงพ่อวัดโสธร ที่แปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ดูว่าหลวงพ่อนี้เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธโสธร ที่จะให้ระลึกเพราะมันมาสัมผัส มันใกล้กัน เพราะเราไปเทศน์เทศน์ที่ฉะเชิงเทรา วัดโสธรนี้ ตอนนั้นโบสถ์หรืออะไรกำลังซ่อมกันอึกทึก เลยแยกออกไปเทศน์ที่ข้างๆ ติดกันนั้น หลวงพ่อนี้ท่านเป็นเจ้าภาพเป็นประธานในงานเทศน์ พอเทศน์จบลงแล้ว ท่านปุ๊บปั๊บๆ ขึ้นไปเลยนะ เรานั่งอยู่บนธรรมาสน์ ปุ๊บปั๊บๆ มายืนกึ๊กตรงหน้า เอากองผ้าป่าอะไรๆ มาถวายเรา นี่เอากองผ้าป่ามาถวายหลวงพ่อ ว่างั้นนะ พอว่างั้นแล้วปั๊บหันหน้ามองดูเรา หลวงพ่อเทศน์เก่งมาก บทเวลาจะพูดนะ หลวงพ่อเทศน์เก่งมาก

เพราะผู้เฒ่านั่งฟังอยู่ข้างๆ  เราก็ไม่ได้คิดได้คาดว่าจะได้รับคำชมนั้นขึ้นมา พอว่าอย่างนั้นนึกว่าจะไปกลับไม่ไป ปุ๊บปั๊บมองหน้าจ้อเลย หลวงพ่อเทศน์เก่งมาก ว่างั้น เอ้อ เรื่องเทศน์ไม่ค่อยเก่งแหละ เก่งตั้งแต่เรื่องความแก่แหละ แก่ไปทุกวัน ยิ่งเก่งกว่าทุกวันนะ มองดูหน้าแล้วไปเลย เราเอาความแก่ตอบ ว่าเทศน์เก่งมาก สู้ความแก่ไม่ได้ ความแก่ยิ่งเก่งขึ้นทุกวัน ผู้เฒ่ามองหน้าแล้วไปเลย เราก็ไม่ลืมคำตอบกัน

การเทศน์นี้เราไม่ได้นับได้พรรณนาแล้ว เพราะว่ามากต่อมากจริง นะ การเทศน์ของเราคนเดียวนี้ เทศน์ในประเทศไทยเรานี้ก็เรียกว่าทั่วประเทศแล้ว จะให้มากขนาดไหน จังหวัดหนึ่ง ซ้ำ อยู่เรื่อย นอกจากนั้นยังอำเภออื่น แล้วทั่วประเทศไทย เทศน์ไม่ได้หยุดได้ถอยจนหลงหน้าหลงหลังนี้ มาให้พรเมื่อเช้านี้ ให้พรหลงหน้าหลงหลัง ต้องตั้งใหม่ให้พรใหม่เห็นไหมล่ะ เทศน์นี้แล้วยังไม่แล้วนะ ยังออกจากนี้อีก ต้นตอจริง อยู่ที่นี่ ต้นตอของเทศน์ เรียกว่าเทศน์สอนพระบนศาลา นี่มีแต่แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วทั้งนั้น เลย อัดเทปไว้ถอดพิมพ์เป็นหนังสือ เป็นเล่มมาก ออกเทปนี้ออกทั่วประเทศไทยมานานแล้วแหละ

อย่ามาถ่าย อย่ามายุ่ง ให้อยู่สบาย สักหน่อยน่ะ ดูหน้าดูหลังบ้างซิ ให้ดูนะหลวงตาองค์นี้ไม่ได้เหมือนใครนะ พอดุ ทันที พอดี ทันที เราไม่ได้ดุด้วยความโกรธ เราดุด้วยธรรมดีด้วยธรรม นี่ไม่เป็นธรรมเราดุเอาตรงนี้ละซิ

นี่พูดอะไร ก็เลยขาดเรื่องไปแล้วตะกี้นี้ อย่างนี้แหละเรื่องราวมาตัดมาลัดกันอยู่อย่างนี้

โยม เรื่องเทศน์ที่หลวงพ่อเทศน์เก่ง

หลวงตา จากนั้นมาก็ขึ้นนี่นะ นี่ละเทศน์ที่ว่าต้นตอหรือรากแก้วใหญ่อยู่ตรงนี้ออกจากนี้ไป อันนี้ก็ทั่วโลกอีกนะ คือเทศน์ที่นี่แล้วก็อัดเทป จากเทปพิมพ์เป็นหนังสือออกหนังสือนี้ก็ออกทางอินเตอร์เน็ต เทปก็ออก หมด จากนั้นก็เทศน์ทั่วประเทศไทยออกไปด้วยกันหมดเลย เรียกว่าเทศน์มากที่สุดแหละ ถ้าหากว่าควรจะเป็นประโยชน์ได้บ้างเราก็ไม่เสียกำลัง ว่าอย่างนี้เลยนะ ไม่เสียกำลังที่ทุ่มเทเพื่อประเทศชาติของเรา เพื่อชาติไทยของเรา ถึงขนาดน้ำตาร่วง ก็มี เรายังไม่เคย มีแต่เราฟัดกับกิเลส นี่แหละน้ำตาร่วงเหมือนกัน

นี่ก็มาฟัดกับความจนของชาติไทยเรา อุ้มพี่น้องชาวไทยเราขึ้น นี่ก็น้ำตาร่วงเหมือนกัน ทั้งสองอย่างนี้เสมอกัน เราฟัดกับกิเลสสู้กิเลสไม่ได้เราไม่ลืม ฝังลึกมากทีเดียว เพราะฉะนั้นมันถึงได้ฟัดกันถึงขนาดม้วนเสื่อว่างั้นเลยนะ เพราะความเคียดแค้นอันนี้ นี่ละความเคียดแค้นนี้เรียกว่าเป็นธรรม ฟาดตัวข้าศึกได้ขาดสะบั้นไปได้เลย ความเคียดแค้นแบบกิเลส เคียดแค้นนี้เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้เป็นเถ้าเป็นถ่านไปหมด ฆ่ากันเอง นี่อำนาจของกิเลสพาเคียดพาแค้น ทำลายกันเองแหลกเหลวไปหมด ส่วนความเคียดแค้นของธรรมให้กิเลสนี้ ฟาดกิเลสให้แหลกเหลวไปหมด

จึงได้เอามาพูด คำพูดเช่นนี้ก็ไม่เคยมีใครพูด ท่านทั้งหลายฟังเอา ถอดออกมาจากหัวใจที่เป็นในเราเองจริง น้ำตาของเราเองร่วง ขึ้นไปบนภูเขาตั้งหน้าตั้งตาจะไปฟัดกับกิเลสอย่างเต็มเหนี่ยว ขึ้นไปไม่ถึงไหนมันฟาดเอา โอ๊ย.หงายไม่เป็นท่าเขาเรียก หงายหมา หงายแล้ว แหง็ก หงายไม่เป็นท่าสู้กิเลสไม่ได้ ถ้าหงายแมวมันตบได้นะ หงายแมวพอตบได้ หงายหมาไม่มีท่า ร้องแหง็ก นี้เราแบบหงายหมา คือไม่เป็นท่า เรียกหงายหมา แต่ที่มีแมวอยู่ในนั้นแทรกอยู่ในนั้นบ้างว่า เหอ มึงเอากูขนาดนี้เชียวเหรอ คือเคียดแค้นสู้มันไม่ได้ ลวดลายมันเก่งกว่าเราทุกด้านทุกทาง เรียกว่า สู้ไม่ได้เลย ก็มีแต่ปากมีแต่ความคิดตอบรับกัน โห มึงเอากูขนาดนี้เชียวเหรอ คือถึงขนาดน้ำตาร่วงเคียดแค้นให้กิเลส เอาละยังไงให้กูถอยกูไม่ถอย กูจะเอามึงให้พังวันหนึ่งจนได้ นี่เรียกว่า หงายอันนี้เป็นลักษณะแมว ยังจะต่อสู้

นี่ละในชีวิตของเราการต่อสู้กิเลสถึงขนาดน้ำตาร่วง เคียดแค้นให้กิเลสเคียดถึงเหตุถึงผลถึงพริกถึงขิงคราวนี้เองนี้อันหนึ่ง นี่ก็น้ำตาร่วง กลับไปก็ไปหาพ่อแม่ครูจารย์มั่น ไปอีกฟิตอีกกลับมาอีกเอาอีก แต่คราวหลังมานี้มันน้ำตาร่วงแต่หงายเหมือนกันหากไม่น้ำตาร่วง สู้มันไม่ได้หงาย ไปอีกกลับมาอีกเอาอีกอยู่อย่างนั้น พอต่อไปทีนี้ก็เริ่มแล้วนะที่นี่ เริ่มแล้ว นี่ละอำนาจแห่งความเคียดแค้น ความมุมานะ ความเจ็บแสบให้กิเลสภายในหัวใจของเรามันฝังลึกมาก เพราะฉะนั้นจึงได้คุ้ยเขี่ยขุดค้นกำลังวังชาทุกด้านทุกทางมา ได้มาทีไรก็ไปต่อยกัน สู้มันไม่ได้หงายมาเสียก่อน เอาอีกกลับไปอีกอยู่อย่างนั้น

หลายครั้งหลายหนมันก็สู้เราไม่ได้ เพราะทางหนึ่งเคียดแค้นอย่างไม่มีจืดจางเลย มีแต่จะฟัดตลอดโดยถ่ายเดียวเท่านั้น สุดท้ายมันก็ค่อยอ่อนให้เห็น ทางนี้ก็ค่อยตั้งตัวได้บ้าง เรื่อยขึ้นจนกระทั่งเริ่มตั้งตัวได้ ไม่มีกลัวเลยกับกิเลส ฟัดกันตลอดเลย นั่น น้ำตาร่วงหนหนึ่ง นี่เราได้มาพูดให้พี่น้องชาวไทยฟัง ที่เราเกี่ยวข้องกับตัวของเราและพี่น้องชาวไทยเรา และช่วยพี่น้องชาวไทยก็ถึงขนาดน้ำตาร่วงเหมือนกัน จึงเรียกว่าฝังลึกทีเดียว

อย่างที่ว่าทองคำนี้ถ้าไม่ได้ ๑๐ ตัน แล้วให้เอาคอหลวงตานี้ไปตัดเสียเลย อย่าเอาไว้ให้หนักแผ่นดินไทย หลวงตานี้เป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลาย พาช่วยฟัดกับความจนมันจะเอาเราให้จมทะเล ทีนี้เราพาพี่น้องทั้งหลายฟัดความจนให้ลงทะเล แล้วสิ่งที่เราจะเป็นเครื่องต้อนรับหรือเครื่องต่อกรกับกิเลสคืออะไร คือทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ ๑๐ ล้านนี้ ขอเป็นเครื่องประกันบนเวที ถ้าหากไม่ได้อันนี้ตามที่มุ่งหมาย ดังที่ได้ตั้งไว้แล้วถึงขนาดน้ำตาร่วงนี้แล้ว อย่าให้เหลือเลยนะหลวงตาองค์นี้ ให้ตัดคอขาดโยนลงทะเลเลยทีเดียว ไม่เป็นท่า มานำพี่น้องทั้งหลายไม่เป็นท่าแล้ว

ฟัดกับตัวเองก็เรียกว่าเต็มเหนี่ยวแล้ว ได้ชัยชนะมาอย่างภาคภูมิใจ น้ำตาร่วงสู้กิเลสไม่ได้หนึ่ง น้ำตาร่วงเวลากิเลสขาดสะบั้นลงจากหัวใจบนหลังวัดดอยธรรมเจดีย์นี้หนึ่ง นี่น้ำตาร่วงอีกเหมือนกัน คราวนี้คราวชัยชนะ น้ำตาร่วงไม่ลืม อย่างนี้นะ ร่วงอันหนึ่งร่วงแพ้กิเลสอย่างหลุดลุ่ย ร่วงที่ กิเลสแพ้แล้วขาดสะบั้นลงจากใจอย่างหลุดลุ่ยไม่มีอะไรเหลือ อันนี้ก็น้ำตาร่วง ประหนึ่งว่าฟ้าดินถล่ม นี่ พักแล้ว พักนี้ช่วยตัวเอง

พักที่ นี้ช่วยพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ นำตนออกประกาศเป็นผู้นำของพี่น้องทั้งหลาย แล้วสิ่งที่จะประกันบนเวทีนี้ก็คือทองคำให้ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ก็ ๑๐ ล้าน นี้เป็นจุดที่หมายแห่งชัยชนะของพี่น้องชาวไทย โดยมีหลวงตาเป็นผู้นำ ว่าได้ชัยชนะมาแล้ว เครื่องหมายแห่งชัยชนะคือทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน และดอลลาร์ ๑๐ ล้าน เมื่อก้าวถึงจุดหมายปลายทางแล้ว หงายลงเลยทองคำไม่ได้น้ำหนัก ๑๐ ตัน ดอลลาร์ขาดสะบั้นไปแล้ว หลวงตานี้คอขาดไปพร้อมกันเลย ไม่ต้องมองดูหน้าหลวงตาเลยนะ แล้วหลวงตาก็จะไม่มองดูใครเลย จะไปตามบุญตามกรรมของตัวเอง เรียกว่าไม่เป็นท่าแล้ว ที่ได้ฟัดกับกิเลสก็เป็นพอใจทุกอย่าง แต่ฟัดกับความจนเพื่อช่วยชาติไทยของเราไม่เป็นท่าหงายลงไปเลย จนถึงขนาดคอขาด

เพราะฉะนั้นจึงขอให้พี่น้องทั้งหลา