หมัดเด็ดของพี่น้องชาวไทย
วันที่ 30 กรกฎาคม. 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

หมัดเด็ดของพี่น้องชาวไทย

สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๒๙ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๒ บาท ดอลลาร์ได้ ๓๐๒ ดอลล์ ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว ๕,๐๕๙ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากการมอบวันที่ ๑๑ เมษา ๔๕ นั้นได้เพิ่มเข้ามาอีก ๑๕๒ กิโล ๒๘ บาท ๒๓ สตางค์ นับว่าเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ทองคำเราต้องออกเด่นไปทุกวันเลยเทียว ทองคำให้เด่นขึ้น ๆ จนถึงจุดที่หมาย จุดที่ตั้งเอาไว้คือ ๑๐ ตัน เรียกว่าเป็นพื้นฐานเลยไม่ให้ต่ำกว่านั้น ส่วนจะเพิ่มกว่านั้นไม่เป็นไรไม่ว่าแหละเรา สำหรับ ๑๐ ตันนี้เป็นเรื่องที่เราประกาศเรียบร้อยแล้ว ออกเป็นความสัตย์ความจริงจากหัวใจที่มุ่งมั่นต่อทอง ๑๐ ตัน เพื่อประดับชาติไทยของเราให้สง่างาม ลบล้างสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่มันจะจมเมื่อสามสี่ปีผ่านมานี้ ซึ่งเมืองไทยเราจะจมกันทั้งประเทศ หมูหมาเป็ดไก่จนจะไม่มีเหลือ จมไปด้วยกันหมด

เวลานี้จะเอาทองน้ำหนัก ๑๐ ตันนี้รื้อฟื้นขึ้นมา เหยียบอันนั้นลงไปที่มันจะทำให้เราจม เราทำให้มันจมเสียก่อนความจนนั่นน่ะ ความจนจะทำให้เราจมน้ำจมท่านั่นน่ะ ทีนี้เหยียบมันลงไปด้วยทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน ส่วนดอลลาร์นี้ยังไงก็ต้องได้แหละ ๑๐ ล้าน ได้แน่ ๆ ถ้าเราได้นี้แล้วเราก็พอใจ คือกำหนดที่เราตั้งไว้นี้ได้ออกประกาศทั่วประเทศไทยแล้ว บรรดาพี่น้องทั้งหลายก็ทราบทั่วหน้ากัน ว่าคราวนี้เป็นคราวที่ยิ่งใหญ่มาก เป็นคราวประวัติศาสตร์แห่งชาติไทยของเรา เวลาจะจมนี้ก็กระเทือนทั่วโลกไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนี่นะ ทีนี้เวลาฟื้นฟูขึ้นมานี้ก็ให้สมศักดิ์ศรีกับความจะจม มันเร็วมากนะ การฟื้นฟูขึ้นมานี้เอาทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันฟื้นฟูขึ้นมานี้ก็จะสง่างามทั่วโลกอีกเช่นเดียวกัน เรียกว่าลบล้างกันได้

เราเอาจุดนี้ละนะ เอามาพิจารณาทบทวนกันทุกแง่ทุกมุมแล้วอันนี้เหมาะสมมาก พอแน่แล้วก็ออกเลยว่า ๑๐ ตัน เพื่อให้ลบล้างอันนี้ แล้วทองคำยังแข็งเข้าไปอีก ต่อจากนั้นเราก็จะประกาศรอดกันไปเรื่องการช่วยชาติบ้านเมืองของเรา เพราะการฟื้นฟูชาติคราวนี้มีอะไรบ้างที่เด่นขึ้นมาเป็นสง่าราศีแก่ชาติไทยของเรา ลบความจนที่จะพาเราให้จมทะเลลงได้อย่างง่ายดาย ลบลงได้ว่างั้นเถอะด้วยทองคำเท่านั้น ดอลลาร์เท่านั้น เงินสดจ่ายไป ๆ แล้วประมาณเท่านั้น ช่วยชาติบ้านเมืองของเรา

เราเรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบนะ จะเป็นนิสัยเป็นอะไรก็ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาเอา มันฝังใจนะเราถ้าลงได้ปักใจลงตรงไหนแล้วแพ้ไม่ได้เลย คิดดูอย่างทำความเพียรนี่รู้สึกแพ้กิเลสอย่างนี้นอนไม่หลับนะ ถ้าจุดไหนจุดที่ต่อกรกันเต็มที่แล้วไปแพ้กิเลสนี้ โอ๋ย ไม่ได้นะ พลิกใหม่เอาใหม่ขึ้นมา ฟัดจนกระทั่งว่ามันแพ้เราแล้วขึ้นมา เรียกว่าเราชนะมันเป็นพัก ๆ ที่มันจะชนะเราเป็นพัก ๆ ไปอย่างนี้ไม่ได้ คิดดูซิน้ำตาร่วง กูมึงขึ้นเลย กลับไปกลับมาเอากันอยู่นั่น สุดท้ายก็เอาได้ อย่างนั้นนะ ไปทำความเพียรอะไรอย่างนี้ เราไปแพ้ความเพียรในจุดใดที่ตั้งใจจะฟัดกันระหว่างกิเลสกับธรรม ไปแพ้อย่างนี้ โอ๋ย นอนไม่หลับนะ ต้องกลับมาเอาใหม่อย่างนั้นนะ นี่เป็นนิสัย เรียกว่าเป็นนิสัย ลงทำแล้วมาแพ้ๆ อย่างราบไปเลยไม่มีท่าต่อสู้ไม่ได้นะ อันไหนที่มันเป็นอยู่ในใจว่าแพ้กิเลสตรงนั้น ๆ เอาใหม่ตั้งใหม่ จะเอาให้ชนะ เอาจนได้ ชนะเป็นพัก ๆ

เพราะฉะนั้นเรื่องความสัตย์ความจริงจึงเด็ดมากในหัวใจเรานะ ความสัตย์ความจริงนี้แม่นยำมาก แข็งแกร่งเลยเทียว ว่าจะเอาอะไรแล้ว เอ้า ขาด ๆ ไปเลย คำสัตย์ว่าจะเป็นอย่างนั้น ๆ จริงอย่างนั้นแล้วจะเป็นอื่นไปไม่ได้ พุ่งเลย อันนี้เราก็ได้พิจารณาแล้วเรื่องชาติไทยของเรา เราถึงขนาดร้องโก้กเราไม่ลืมนะ ร้องจริง ๆ สะเทือนหัวใจอย่างมากทีเดียวไม่ใช่ธรรมดา ขึ้นต้นติดหนี้ติดสินเขาเท่านั้น ๆ ไล่กันไปไล่กันมาแล้วให้ลูกศิษย์สอบถามถึงเรื่องภายใน ให้ลูกศิษย์นำเรื่องราวมา การที่จะทำชาติไทยเราจมนี้มีอะไร ๆ บ้าง เอามา นี่ละที่ว่าติดหนี้เขาเท่านั้น ๆ รวมแล้วพวกหนี้ทั้งหลายมันก็เป็นนายเรา แล้วนายเรานี้มาจากประเทศไหน ๆ มันก็เหมือนอุ้งเล็บของเหยี่ยวใหญ่ ประมวลแล้วเราผู้ติดหนี้ตัวเท่าหนูอยู่ใต้อุ้งเล็บเหยี่ยวใหญ่ มันกำเมื่อไรหมดเลย ตรงนี้นะ พอกำเท่านั้นเสร็จหมด ประเทศทั้งประเทศไม่มีความหมาย นี่ที่มันกระเทือนมาก

คือพวกนายหนี้เขาพร้อมแล้ว กำเราเมื่อไรเสร็จ แต่เวลานี้เขายังไม่กำ เขายังกางเล็บไว้รอเราที่จะใช้หนี้เขาได้มากน้อยเพียงไร ถ้าเขากำเมื่อไรก็หมดเลย บอกว่าเป็นหนี้ข้า เอาเงินมาให้ข้า ไม่งั้นเมืองไทยเป็นเมืองของข้าหมดเลย นี่ละพอเรื่องราวมันเต็มเหนี่ยวแล้วมันก็กระเทือนหัวใจ เพราะฉะนั้นจึงว่าเท่ากับสงครามเศรษฐกิจนะ ไม่ใช้ปืนผาหน้าไม้รบรากันอะไรแหละ แต่เมืองไทยนี้จมไปทั้งเมืองอย่างเงียบเลย เรียกว่าสงครามเศรษฐกิจ มาลงตรงนี้

เมืองไทยของเราประคับประคองกันมาแต่ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษ มานานเท่าไร พอเป็นพอไปเหมือนโลกทั่ว ๆ ไป ราบรื่นดีงามมาจนกระทั่งบัดนี้ แล้วอยู่ ๆ บรรดาลูกเต้าหลานเหลนของพี่น้องชาวไทยไปทำยังไงมา ถึงได้มาอยู่ใต้อุ้งเล็บของเหยี่ยวใหญ่อย่างนี้ เขากำเมื่อไรก็หมดเลยแล้วทำไง เมื่อไทยจะจมคราวนี้ละเหรอ คนไม่ใช่น้อย ๆ ๖๒ ล้านคน ปู่ย่าตายายที่นำมาไม่ได้มีกี่ล้านคน ท่านยังประคับประคองมาได้ ทีนี้เมืองไทยเราเป็นลูกเป็นหลานของท่านตั้ง ๖๒ ล้านคนจะพากันจมไปทั้งหมด ก็เท่ากันกับเอาปู่ย่าตายายให้จมไปด้วยกันหมดไม่มีเหลือ ดับเชื้อแห่งชาติไทยหมดไม่มีเหลือ มีแต่บ๋อยจะว่าไง นี่ละที่ร้องโก้กนะ

คิดไปหมดแล้ว เอ้า จะพาดิ้น นั่นละถึงได้ออกนะ เมื่อออกไปแล้วมาถึงระยะนี้ที่สมควรจะพิจารณาประมวลละที่นี่ในการช่วยชาติบ้านเมืองของเรา ทั้งชาติทั้งศาสนา ประชาชนทั่วประเทศต่างคนต่างช่วยชาติของเรา ๆ ก็เห็นผลปรากฏมา เป็นที่พอใจเป็นลำดับลำดามา มาถึงระยะนี้เรากำลังประมวลทองคำ ซึ่งเราก็ได้แล้วตั้งค่อน ๑๐ ตัน มันได้ ๕ ตันกว่าแล้ว ครั้นประมวลมาแล้วอะไรจะพอเหมาะจำนวนทองคำ ที่จะมาลบล้างกันกับสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่จะพาเมืองไทยทั้งชาติให้ล่มจม อะไรที่จะมาลบล้างได้ จุดลงก็คือทองคำต้อง ๑๐ ตัน จะลบล้างกันได้ไม่สงสัย เราคิดหมดทุกอย่าง อย่างอื่นอย่างใดลบล้างไม่ได้ เช่น ช่วยกันประเดี๋ยวประด๋าวเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วหายไปเลย

อะไรที่มันตีตราไว้อย่างหนักว่าชาติไทยจะเป็นบ๋อยของชาติอื่นเขานี้ มันจะตีไว้อย่างหนัก เพราะฉะนั้นเราจึงลบออกเลยไม่ให้เหลือ ให้ชาติไทยทั้งชาติเป็นชาติไทยโดยสมบูรณ์ ด้วยทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน เพราะการช่วยชาติด้วยความรัก ความเสียสละ ความพร้อมเพรียงสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ รวมหัวกันยกเมืองของตนขึ้นอย่างเด่นชัด ให้โลกได้เห็นอย่างประจักษ์ ก็ลงในจุดทองคำ ๑๐ ตัน เอาละพอ นี่นะ เพราะฉะนั้น เราถึงได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ว่าเอานะจุดนี้ เรียกว่าหลวงตาขึ้นเวทีแล้วนะ เหมือนกับว่าซัดกันกับความเพียรนั่นแหละ ก็แบบเดียวกัน

ระยะนี้เป็นเรื่องความเพียรใหญ่ จะยกชาติของเราทั้งชาติขึ้นให้สมบูรณ์พูนผล สง่างามด้วยทองคำที่เราช่วยกัน ให้สวยงามสง่าไปหมดทั่วประเทศเขตแดนและทั่วโลกด้วย แล้วเรื่องรอยร้าวรอยสกปรกโสมม รอยเขาจะจี้หน้าเรานี้ ลบล้างไปหมดเลยได้ด้วยทองคำ ๑๐ ตันนี้ เราคิดหมดแล้ว จึงว่าเอานะพี่น้องทั้งหลายไม่ถอย บอกอย่างนั้นเลย ส่วนดอลลาร์ยังไงก็ตามกันไป ขอให้ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันแล้วเราเป็นที่พอใจ เพราะจุดใหญ่เราอยู่จุดนี้ โลกเขาจะมองจุดนี้แหละมาก ดอลลาร์เหมือนว่าอยู่ข้างหลัง ทองคำอยู่ข้างหน้า เมื่อเราได้อันนี้แล้วก็จ้าออกหมดครอบไปหมดเลย เราจึงเอาจุดนี้เป็นจุดสำคัญ เวลานี้ก็ได้ตั้ง ๕,๒๑๑ กิโลฯ แล้ว ได้เยอะแล้ว แล้วค่อยเพิ่มเร็วขึ้นนะ เวลานี้เร็วขึ้น

พี่น้องทั้งหลายก็เริ่มทราบทั่วกันแล้วว่า หลวงตาออกประกาศแล้วให้ทราบทั่วถึงกัน เรื่องทองคำให้ได้เท่านั้น คราวนี้เป็นหมัดเด็ดของพี่น้องชาวไทยทุกคน ๆ แล้วให้ไปดูบ้านไหนไม่มีหมาให้ไปเลี้ยงหมาไว้ทุกบ้าน ๆ สำหรับวัดป่าบ้านตาดมีไม่อั้นแล้ว หมามี ๑๑-๑๒ ตัว เอาเลย นี่เราจะออกสงคราม เราไม่มีอะไรเราก็เอาหมัดเราฟัดเลย เมื่อหมัดเราไม่พอเราก็เอาหมัดหมามาช่วยเข้าใจไหม เพราะฉะนั้นต้องไปเลี้ยงหมาไว้ในบ้านของเรา เวลาจำเป็นเคาะข้างหลังมัน เอ้า สู้ช่วยกูหน่อย ซัดเลยเข้าใจไหม หมาเราตัวเดียวหมัดมันเต็มหลัง พวกนี้หงายเลย เข้าใจไหม ให้เลี้ยงมันไว้นะ นี่เรียกว่านักสู้ สู้ไม่ถอย

เมื่อได้อย่างสมใจหมายแล้ว พี่น้องทั้งหลายก็ชุ่มใจเย็นใจอบอุ่น การทำมาค้าขายติดต่อกันทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวประกันของเราคือทองคำที่เพิ่มเข้าไปนี้ เราได้กำหนดดูแล้วว่า ทองคำในคลังหลวงของเรามีเท่านั้น เมื่อเพิ่มเข้าไปแล้วจะมีจำนวนเท่านั้น จะพอฟัดพอเหวี่ยง เราพิจารณาหมดนะ เพราะเราเข้าไปดูทองคำในคลังหลวงเอง ตั้งแต่เขานิมนต์เราให้เข้าไปเราทราบทันที เพราะวันนั้นเป็นวันที่เราไปมอบทองคำด้วย เป็นโอกาสที่เหมาะกัน มอบทองคำแล้วหัวหน้าใหญ่ก็มานิมนต์เราเข้าไปดูทองคำในคลังหลวง มันก็พาดพิงถึงทองคำที่เรามามอบ ท่านเหล่านี้คงคิดว่าเราจะต้องมีส่วน ว่าอย่างนั้นนะ พอเราเอาทองคำไปมอบปั๊บ พาเราเข้าไปดู เราดู ๆ จริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา รู้ความหมายของผู้นิมนต์เราแล้ว ก็เรียกว่าหวังพึ่งกันและกันว่าอย่างนี้เลย

ผู้อื่นมันไม่มีแง่ที่จะพึ่งได้อย่างชัดเจนและง่ายกว่าแง่นี้ แง่ที่กำลังเราเป็นผู้นำอยู่นี้ แง่นี้ง่ายกว่าแง่อื่น เพราะฉะนั้นจึงให้ไปดู เมื่อบกพร่องยังไงก็จะต้องได้พิจารณาช่วยกัน ความหมายว่างั้น ทีนี้พอเข้าไปดูทุกแง่ทุกมุม ดูหมดนะไม่ใช่ดูธรรมดา ดูอย่างละเอียดลออ พอออกมาก็ไปคุยกันสองต่อสอง ไม่ให้ใครทราบเลยแหละ เขาก็ไม่มายุ่ง ไปคุยกันโดยเฉพาะ เราก็คิดคาดเอาไว้ว่าเมืองไทยเราทั้งเมืองนี้ ต้องมีสมบัติประกันชาติไทยของเราแต่ละแห่ง ๆ ในจุดสำคัญของเมืองนั้น ๆ ที่เรียกว่าเมืองนอกเมืองนา ถามปั๊บถูกเป๋งเลย เห็นไหมล่ะ ผิดไหมล่ะ ทองคำเรานี้เอาไปฝากไว้เมืองไหนบ้างๆ ทางโน้นตอบมาตรงเป๋ง ๆ เลย ไม่ได้ผิดถามไป เมืองนั้นเท่านั้น ๆ มีแต่เมืองสำคัญซึ่งติดต่อกันด้วยการซื้อขายทั้งนั้น ไม่ใช่ธรรมดา เมืองนั้นเท่านั้น ๆ

แล้วเมืองไทยเรามีเท่าไร เมืองไทยเรามีเท่านั้น รู้สึกว่าใจเราหายวาบ มันยุบฮวบลงไปเลย ก็อยู่ในใจไม่พูด เพราะฉะนั้นออกมาวันนั้น ตั้งแต่ออกจากธนาคารมาแล้วไปถึงสวนแสงธรรม ทั้ง ๆ ที่เราดุพวกนักข่าวอยู่ตลอดเวลา คือเขามายุ่งข่าวนั้นข่าวนี้ ถ้าไปนั้นได้เรื่องนี้ออกไปแล้วก็ประกาศขึ้นเลย เราจะสั่ง พอไปถึง วันนี้นักข่าวมันไปไหนหมด เอาแล้วนะ ทุกวันมันยุ่งจะตายไป วันนี้มันไปไหนหมด วันนี้เรามีเรื่องที่จะพูด สัก ๑๐ นาทีเท่านั้นมั้ง นักข่าวเขาจะยังไม่กลับหรือยังไงไม่รู้นะ พอดีนักข่าวเข้ามา เอ้า มานี้จะพูดให้ฟัง ใส่ขึ้นเลยทองคำ ตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้ เรื่องประกาศทองคำ เอาตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งบัดนี้ มันก็เป็นไปอย่างนี้เห็นไหมล่ะ ๕ ตันกว่าแล้ว ต่อจากนี้ก็คืบขึ้นไปเรื่อย ๆ

เมื่อมันได้อย่างที่ว่านี้แล้ว เราออกหน้าทัพเอง ประเทศไหนชาติใดที่จะมาตำหนิติเตียนชาติไทยของเรานั้น เราเป็นหัวหน้าทัพ เราเป็นผู้บงการเอง สร้างเครื่องต้านทาน กำแพงของเราหนาแน่นไปด้วยทองคำ ๑๐ ตัน ใครจะมาว่า ว่าเลย จะปัดบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายออกไว้ข้างหลัง เราออกสนามคนเดียว ออกสนามจะออกอย่างหมัดเด็ด ๆ เสียด้วยนะ ออก ให้มาทั้งหมดบอกอย่างนั้นเลย เขาจะมาโจมตีเมืองไทยเรา ให้มาทั้งหมด เราคนเดียวพอแล้ว เราจะว่าอย่างนี้ พวกบริษัทบริวารเราเอาไว้ข้างหลังหมด เราออกสนามคนเดียว เอ้า มา เราโบกมือเลย พอมานี้ ให้สูยกมาทั้งโคตรทั้งแซ่สูนั้น สูก็ไม่ได้ทองคำมาให้กูสัก ๑ กิโล นี่บัดจะเอา นี้คนไทยทั้งชาติกูได้มาตั้ง ๑๐ ตันเห็นไหม สูจะมาหาต่อว่าอะไรกูอีก ทองคำกูยังไม่ได้ สูหมดทั้งโคตรสูมานี้สูไม่เห็นได้ทองคำ เมืองไทยกูได้ทองคำตั้ง ๑๐ ตัน ถ้าสูอยากตายหมดทั้งโคตรให้สูรีบปัด ไม่งั้นหมัดเดียวกูจะเอาเสร็จเลยเข้าใจไหม นี่ตอบไล่กัน ก็อย่างนั้นซี

นี่เรียกว่าเราสู้ ๆ จริง ๆ เมื่อถึงจุดนั้นแล้วปัดลูกศิษย์ลูกหาออกข้างหลังเราออกสนามเอง เราเป็นผู้ยืนยันในทองคำนี้ มาถูกคัดค้านต้านทานจะมาโจมตีทองคำนี้เราจะสู้เลยทันที เข้าใจไหม เรียกทองคำเข้าด้วย โคตรไหน ๆ สูได้เอามาสักกี่กิโลไหม สูไม่เห็นมี ถ้าสูยังไม่อยากฉิบหายตายหมดทั้งโคตร สูให้เอาทองคำมาให้กู อย่างน้อย ๑๐ ตัน มากกว่านั้นให้เก่งกว่านี้สูจึงมาโจมตีกู จะว่าอย่างนั้นเข้าใจไหม นี่เราเตรียมพร้อมไว้เฉย ๆ มันยังไม่มาเรายังไม่เอา ประกาศไว้เฉย ๆ นี้เป็นความลับ เราประกาศไว้เป็นความลับ เข้าใจไหม อันนี้ออกแล้วความลับของเรา

นี่ละอำนาจแห่งความรักชาติของเรา พี่น้องทั้งหลายเห็นคราวนี้เห็นชาติไทยของเรารักชาติมากน้อย เอ้า ประกาศขึ้นที่ทองคำ ซึ่งชาติต้องการอย่างยิ่ง ๑๐ ตัน ประกาศน้ำใจออกมาจุดนี้ให้ได้ทุกคน ๆ มากน้อยไม่สำคัญ เหมือนฝนตกทีละหยดละหยาดสามารถทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มได้นะ ตกไม่หยุด อันนี้มีเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ทางนั้นมาทางนี้มา วันนั้นมาวันนี้มา เดี๋ยวก็เต็ม มันจะไปไหน ต้องได้ด้วยกำลังของใจที่รักชาติและนักเสียสละ นักสงวนชาติไทย รักชาติต้องสงวนซิ ต้องรักษา มีอะไรมากระทบกระเทือนไม่ได้ฟัดกันเลย อย่างนั้นจึงเรียกว่าคนรัก

นี่เราก็รักชาติด้วย รักความสามัคคีด้วย ความสามัคคีนี้เป็นกลุ่มสำคัญเป็นพลังที่หนักมาก อย่าให้มีการแตกแยกอย่าให้มีการแตกร้าว เช่น ร่างกายของเรา ร่างกายคนหนึ่งๆ เป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ก็ตาม ถ้าสมบูรณ์บริบูรณ์ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยพิกลพิการแล้ว สะดวกทั้งนั้น ยืน เดิน นั่ง นอน สะดวก ประกอบหน้าที่การงานไปมาหาสู่อะไรสะดวกหมด นี่เรื่องความสามัคคีของธาตุขันธ์ สมบูรณ์แบบแล้วประกอบการงานได้สมบูรณ์ อันนี้ความพร้อมเพรียงสามัคคีของชาติไทยเรามีเต็มชาติแล้วหนาแน่นมาก สำคัญมาก ใครจะมาทำอะไรไม่ได้ง่าย ๆ นะ ให้พี่น้องทั้งหลายจำนี้เอาไว้

ถ้าร่างกายอันนี้มีเจ็บไข้ได้ป่วย ปวดหัวตัวร้อน พิกลพิการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว อะไรลดลงหมดนะ ร่างกายทั้งหมดนี้ไม่ได้มีความหมาย จุดที่บกพร่องจุดที่สร้างความทุกข์ความแตกร้าวมันอยู่ที่จุดพิการ เจ็บตรงไหนตรงนั้นแหละตัวมหาภัยสร้างความวิกลวิการ ตลอดพลังวังชาที่เราได้ประกอบการงาน ล้มไปตาม ๆ กันหมด เพราะมหาภัยคือความทุกข์ที่เกิดในจุดนั้นแห่งร่างกายของเรา เข้าใจไหม นี่ละร่างกายของเราเพียงเท่านั้น มันก็ทำให้เสียหมดทั้งร่าง

ทีนี้คนไทยของเราไปแยกไปแยะไปแตกไปร้าวด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ อวดดีอวดเด่นเจ้าของแล้วเหยียบคนอื่นลง นั้นละคือเหยียบชาติไทยของเรา อย่านำมาใช้ในเมืองไทยเรา ขัดต่อหลักธรรมของพุทธศาสนา ซึ่งเราเป็นลูกชาวพุทธเป็นอย่างมากทีเดียว เรื่องความรักชาติ ความสามัคคี กลมกลืนซึ่งกันและกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน เห็นอกเห็นใจกันและกัน นี้คือแก่นของพุทธศาสนาให้นำไปใช้นะ อย่าให้มีเรื่องความแตกความแยก ผิดมากทีเดียว ตั้งแต่หมาในวัดนี้ตัวไหนรังแกเขา ขู่เขาแฮ่ ๆ อยู่นี่ ไม้เรียวลงหลังแล้วเห็นไหม ที่เหนือนั้นคือธรรม เข้าใจไหม ไม่ได้ทำให้ความแตกร้าวเกิดขึ้น แม้แต่เกิดขึ้นในหมาไม้เรียวพระท่านหวดเลยนะ ให้อยู่ด้วยกันกลมกลืน รักกันหมด หมาทั้งวัดนี้รักกันไม่เคยมีตัวไหนกัดกัน กัดกันไม่ได้ นี่คือความสามัคคี

หมาทั้งหลายก็กลมกลืนกัน เพราะธรรมครอบเอาไว้หมด พระก็กลมกลืนกัน พระอยู่ในวัดนี้ไม่ว่าภาคใดอยู่ในวัดนี้ทั้งนั้น หมดทุกภาคในเมืองไทยของเราอยู่ในวัดนี้ไม่เคยขาด ทุกภาคเลย เป็นอวัยวะเดียวกัน เป็นลูกพ่อเดียวกันคนชาติไทยอันเดียวกัน เลี้ยงดูกัน ปกครองกันด้วยอรรถด้วยธรรมซึ่งเป็นพ่อใหญ่อันเลิศเลอได้แก่ธรรม ปกครองพระเณรทั้งหลายอยู่กันเป็นสุขเหมือนอวัยวะเดียวกัน นี่อำนาจแห่งธรรมครอบให้เป็นความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันแล้วชุ่มเย็นไปหมด

อันนี้เราเป็นลูกชาวพุทธให้นำธรรมประเภทนี้มาใช้ มีมากมีน้อยให้ถือเป็นคนไทยอวัยวะเดียวกัน เหมือนอย่างตัวของเรานี้มีอวัยวะกี่ชิ้นกี่อัน แตกแขนงไปจากร่างกายนี้เป็นของเราทั้งหมด เมื่อเป็นของเราแล้วเราต้องเป็นผู้รักผู้สงวนรักษาทุกสิ่งทุกอย่างอะไรบกพร่อง ให้รีบเยียวยารักษาทันที อย่าไปทำลาย นี่เรียกว่าผู้รักษาอวัยวะของตน ให้มีความกลมกลืนกันด้วยความสามัคคี หน้าที่การงานสมบูรณ์ไปหมด ถ้าลงร่างกายสามัคคี อันนี้ชาติไทยของเราก็เหมือนกัน เมื่อต่างคนมีความพร้อมเพรียงสามัคคี ไม่ดูถูกเหยียดหยามไม่แยกไม่แยะแล้ว สร้างแต่ความรักชาติความรักกัน ความเห็นอกเห็นใจขึ้นสู่เมืองไทยแล้ว เมืองไทยจะเป็นเมืองแน่นหนามั่นคงมาก ให้จำเอานะข้อนี้ อันนี้สำคัญมากทีเดียว จะสร้างพลังของชาติไทยเราขึ้นด้วยความรักชาติ ด้วยความสามัคคีซึ่งกันและกัน นี้สำคัญ

ความเห็นอกเห็นใจเฉลี่ยเผื่อแผ่ มีอะไรก็ช่วยกันไปเถอะคนเรา เราเป็นเศรษฐีเราไม่ได้แจกจ่ายผู้ใดเลย เศรษฐีคนนั้นก็เป็นเศรษฐีโมฆะ เขาเป็นคนทุกข์คนจนแต่เขาเฉลี่ยเผื่อแผ่ คนนี้สง่างามมากยิ่งกว่าเศรษฐี มันต่างกันนะ น้ำใจนั้นแหละพาคนให้สง่างามและพาคนให้อับเฉาอยู่ที่น้ำใจ ถ้าน้ำใจมีความกว้างขวาง เสียสละไปทุกสิ่งทุกอย่างตามเกิดตามมีแล้วกว้างขวาง เด็กก็น่ารัก ผู้ใหญ่ก็น่าชมเชยน่าเคารพนับถือ ยิ่งใหญ่เท่าไรยิ่งเป็นที่น่าบูชา เป็นอย่างนั้นนะ ถ้าตระหนี่ถี่เหนียวเสียอย่างเดียวไปที่ไหนอดอยากขาดแคลน ไปคบค้าสมาคมกับใครก็ไม่ได้ เขากลัวจะไปกินตับเขาละซิ คนคับแคบตีบตัน ให้สร้างความสามัคคีไว้ เราจะดีด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคี แล้วดีด้วยความเสียสละ ความมีใจอันกว้างขวาง ไม่ดีด้วยความคับแคบตีบตันนะ

ถ้าลงคับแคบตีบตันแล้ว เมือไทยเรา ๖๓ ล้านนี้จมไปด้วยกันหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย มากกว่านี้ก็จม เพราะต่างคนต่างเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างสร้างความแตกแยกออกไปใส่เมืองไทยของเรา เมืองไทยของเราก็เป็นเมืองไฟเผาชาติไทย จมไปหมด นี่ความเห็นแก่ตัว ความดูถูกเหยียดหยาม ไม่ดีอย่านำมาใช้ นี้ไม่ใช่ธรรม ให้ปัดออกให้หมด เราเป็นลูกชาวพุทธอะไรจะเป็นเครื่องสมานกัน ไม่ต้องถามถึงชาติชั้นวรรณะกันละคนเรา มองเห็นกัน มาปฏิบัติต่อกันหรือดูอัธยาศัยของกัน ดูน้ำใจที่มีต่อกัน เท่านี้พอแล้ว เป็นเครื่องยันได้เลยว่า ตายด้วยกันได้ พึ่งเป็นพึ่งตายกันได้ อยู่ที่น้ำใจที่แสดงเป็นมงคลและเป็นความตายใจต่อกัน นี่เป็นจุดสำคัญ ชาติชั้นวรรณะนั้นเป็นอันหนึ่งต่างหาก แม้แต่ไก่มันก็มีชื่อ ตั้งไว้อย่างนั้นแหละ แต่สิ่งที่จะมาสมานซึ่งกันและกันนี้ คือความดีงามของใจแต่ละคน ๆ ที่แสดงออกต่อกัน ถ้าแสดงออกต่อด้วยความเป็นมงคลตามทางพุทธศาสนา ซึ่งเราเป็นลูกชาวพุทธแล้ว เย็นไปหมดเมืองไทยของเรา ให้พี่น้องได้จำเอาไว้นะ เอาละวันนี้พูดเพียงแค่นี้เสียก่อน

อ่านธรรมะหลวงตา วันต่อวัน ได้ทางอินเตอร์เน็ต www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก